เมื่อปฏิทินผลัดเปลี่ยนมาถึงช่วงสิ้นปี
ดิฉันจะออกไป “เยื่อมเยือนลูกค้าในช่วงสิ้นปี” ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติประจำทุกปี
แม้หลายคนอาจมองว่าการไปเยี่ยมลูกค้าในช่วงสิ้นปีเป็นเพียงธรรมเนียมปฏิบัติ
แต่โอกาสที่เราจะได้พบปะพูดคุยกับลูกค้าโดยตรงนั้นถือเป็นช่วงเวลาอันล้ำค่าในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย
คำกล่าวที่ว่า “ไม่มีการเรียนรู้ใดล้ำค่าไปกว่าประสบการณ์”
พิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงในระหว่างการไปเยี่ยมลูกค้าค่ะ
จุดประสงค์หลักของการไปเยี่ยมลูกค้า คือ การแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่จริง สิ่งที่ได้รับกลับมาไม่ใช่เพียงการแลกเปลี่ยนคำขอบคุณเท่านั้น
การได้เข้าไปที่บริษัทของลูกค้า สัมผัสบรรยากาศภายในสถานที่
และพูดคุยเกี่ยวกับความต้องการหรือปัญหาที่พวกเขาเผชิญ
ไม่เพียงช่วยให้ดิฉันในฐานะผู้บริหารได้เรียนรู้ แต่ยังมอบบทเรียนสำคัญในฐานะผู้ประกอบธุรกิจคนหนึ่งอีกด้วยค่ะ
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าอาจชี้ให้เห็นถึงจุดที่ต้องปรับปรุงในผลิตภัณฑ์อย่างเห็นภาพชัดเจน
หรือแสดงความคิดเห็นถึงประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากบริการของบริษัทเรา
แน่นอนว่าจะมีการนำข้อมูลเหล่านี้ไปแบ่งปันร่วมกับทีมงานในบริษัท
แต่การรายงานหรือถ่ายทอดข้อมูลเพียงอย่างเดียวมีข้อจำกัด
การได้เห็นสีหน้าของลูกค้า สัมผัสบรรยากาศรอบตัว และพูดคุยโดยตรง
ช่วยให้ดิฉันเข้าใจ “ความรู้สึกที่แท้จริง” ซึ่งนับว่าเป็นการเรียนรู้ที่ชัดเจนลึกซึ้ง
นอกจากนี้ การไปเยี่ยมลูกค้ายังมอบโอกาสให้ดิฉันได้กลับมาทบทวนพิจารณาตัวเอง
และบริษัทด้วยมุมมองของบุคคลภายนอก
ทุกครั้งที่เดินทางไปเยี่ยมลูกค้า ดิฉันจะถือโอกาสตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าได้จริงหรือไม่
และในฐานะผู้บริหาร ดิฉันกำลังนำพาบริษัทไปในทิศทางที่ถูกที่ควรหรือไม่แม้บางครั้งอาจได้รับคำวิจารณ์ที่รุนแรง
แต่คำวิจารณ์เหล่านั้นกลับกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการเติบโตและพัฒนา
จากประสบการณ์ดังกล่าว ดิฉันจึงตระหนักได้ว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นจาก “การลงมือทำ”
การอ่านหนังสือหรือเข้าร่วมสัมมนาเป็นสิ่งสำคัญก็จริง
แต่นั่นไม่อาจมอบความเข้าใจอันลึกซึ้งได้เทียบเท่าการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับลูกค้าโดยตรง
การลงมือทำและสัมผัสประสบการณ์ในสถานการณ์จริงจะช่วยให้เราตระหนักรู้ในสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
เมื่อมองย้อนกลับไปทบทวนประสบการณ์เหล่านั้น
การไปเยี่ยมเยือนลูกค้าในช่วงสิ้นปีจึงไม่ได้เป็นเพียงธรรมเนียมปฏิบัติเท่านั้น
แต่เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตและพัฒนาสำหรับตัวดิฉันในฐานะผู้บริหารและสำหรับบริษัทของตัวดิฉันเอง
ในขณะที่เราแสดงความขอบคุณต่อลูกค้า เราเองก็ได้รับโอกาสในการเรียนรู้ เติบโตและพัฒนาตัวตนของเราด้วย
สุดท้ายนี้ ความสำคัญของการเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน
ดิฉันอยากจะขอแนะนำให้ทุกคนลองออกเดินทางไปยังสถานที่จริง
เพื่อสัมผัสและเรียนรู้ผ่านการมองเห็นและการรับฟังด้วยตนเองประสบการณ์และการเรียนรู้เหล่านั้น
จะกลายเป็นเสบียงสำคัญที่จะช่วยนำพาคุณก้าวไปสู่การเติบโตและพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
ดิฉันหวังว่าบทความในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านนะคะ


